วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แฉขบวนการดิสเครดิต 20 โรงเรียนดัง แอบอ้างเป็นผู้ปกครอง



แฉขบวนการดิสเครดิต 20 โรงเรียนดัง แอบอ้างเป็นผู้ปกครอง

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม 2555 เวลา 12:29 น.
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่หอประชุมกองทัพเรือ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวในการประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2555 ตอนหนึ่งว่า ตนอยากให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ ไปดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาการรับนักเรียนเข้าเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ประจำปีการศึกษา 2555 ให้สังคมได้เข้าใจตรงกัน ภายหลังเกิดกรณีนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ออกมาประท้วงให้โรงเรียนรับเข้าเรียนต่อชั้น ม.4 โดยต้องยืนยันว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยึดตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้ แต่อย่างไรก็ตามจากปัญหาที่เกิดขึ้น สพฐ.ได้เตรียมการพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การรับนักเรียนในปีต่อไปให้สอดรับกับความต้องการของจำนวนนักเรียนให้มากขึ้น ซึ่งในส่วนของนักเรียนกลุ่มดังกล่าวที่ไม่ได้เรียนต่อโรงเรียนเดิม อาจมีสิทธิ์ย้ายกลับมาเรียนได้ในปีต่อไป
ดร.ชินภัทร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชาฯ ยื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ร้องเรียนกรณีการเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะใน 20 โรงเรียนนั้น ในต้นสัปดาห์หน้าตนจะเชิญคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาหารือ ก่อนจะเดินทางเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อ ป.ป.ช. ในวันพุธที่ 30 พ.ค.นี้ ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ปกครองฯ ได้ยื่นหนังสือถึงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ด้วยนั้น ตนได้ส่งเจ้าหน้าที่ชี้แจงกฎระเบียบการรับนักเรียนของ สพฐ.ไปแล้ว ซึ่งทางพล.อ.เปรม ก็เข้าใจและประสานให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี เข้ามาดูแลเรื่องดังกล่าว และตนก็ได้ชี้แจงให้นายยงยุทธ เข้าใจแล้วเช่นกัน ว่าไม่สามารถเพิ่มจำนวนรับนักเรียนในชั้น ม.4 ได้อีก อย่างไรก็ตามตนจะเดินทางเข้าชี้แจงพลเอกเปรม อีกครั้งด้วยตัวเอง
ขณะที่ นายวัชรินทร์ ศรีบุรินทร์ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) และคณะตัวแทนผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา 4 ภาค แถลงข่าวเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมศึกษา 20 โรงเรียนที่ถูกกลุ่มเครือข่ายผู้ปกครองฯ กล่าวหาว่า เรียกเงินแป๊ะเจี๊ยะ ในการรับเด็กเข้าเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ประจำปีการศึกษา 2555 ว่า ทางสมาคมฯ ได้ตรวจสอบการรับนักเรียนของโรงเรียนในกลุ่มดังกล่าวแล้ว ในเบื้องต้นไม่พบการกระทำผิดหลักเกณฑ์การรับนักเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งกำหนดให้รับนักเรียนร้อยละ 80 ของนักเรียนชั้นม.4 ไม่ใช่รับนักเรียนร้อยละ 80 ของนักเรียนที่จบการศึกษาในชั้นม.3 ทั้งหมด ขณะเดียวกัน ส.บ.ม.ท.ได้ตรวจสอบกลุ่มผู้ปกครองที่ออกมาร้องเรียน พบบางส่วนไม่ใช่ผู้ปกครองตัวจริงแต่แอบอ้างมาด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ในการลดความน่าเชื่อถือของโรงเรียน เนื่องจากกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเป็นผู้ปกครองเป็นกลุ่มธุรกิจที่ถูกปฏิเสธจากทางโรงเรียนทำให้เกิดความไม่พอใจจึงพยายามกดดันและโจมตีโรงเรียน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่สมาคมฯ ยอมไม่ได้ ดังนั้นในเร็วๆ นี้ จะมอบให้ฝ่ายกฎหมาย ส.บ.ม.ท.ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กล่าวหาที่นำข้อมูลเท็จมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนที่สถานีตำรวจท้องที่ของโรงเรียนทั้ง 20 แห่ง
"ผมยืนยันว่าการออกมาแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ใช่ต้องการปกป้องหรือปฏิเสธแทนผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกกล่าวหา ขณะเดียวกันสมาคมฯ ยินดีเข้าไปตรวจสอบหากมีการแจ้งเบาะแสว่าผู้อำนวยการโรงเรียนใดเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ แต่ในกรณีที่เกิดขึ้นนี้สมาคมฯ ได้ตรวจสอบในเบื้องต้นแล้ว ดังนั้นฐานะที่เป็นองค์กรวิชาชีพอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้อง และอยากขอให้หน่วยงานต่างๆ รวมถึงสื่อมวลชนได้ร่วมกันตรวจสอบกลุ่มผู้เรียกร้องว่ามีผลประโยชน์ใดทับซ้อนหรือไม่" นายก ส.บ.ม.ท. กล่าว
ส่วน นายรัตน์ชัย ศรสุวรรณ ที่ปรึกษากฎหมาย ส.บ.ม.ท. กล่าวว่า ตนมีหลักฐานเป็นเอกสารที่ยืนยันได้ว่ามีกลุ่มบุคคลซึ่งแอบอ้างตัวเป็นผู้ปกครอง มีส่วนเกี่ยวข้องในการเรียกรับผลประโยชน์จากทางโรงเรียน ให้ตอบรับการบริการ ในการจ้างเหมาครูต่างประเทศเพื่อสอนภาษาอังกฤษให้แก่นักเรียน แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับความยินยอมจากผู้อำนวยการโรงเรียน จึงมีการกระทำต่างๆ ในลักษณะการข่มขู่และกดดัน อาทิ การส่งเอกสารโดยกล่าวอ้างถึงหน่วยงานระดับชาติหลายหน่วยงาน อาทิ ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น (ภตค.) ร่วมกับสภาหอการค้าไทย สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฯลฯ ทั้งนี้เบื้องต้นตนจะทำหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานที่ถูกกล่าวอ้างทั้งหมดว่ากลุ่มบุคคลที่แอบอ้างมีส่วนเกี่ยวข้องในหน่วยงานนั้นๆ จริงหรือไม่ พร้อมกันนั้นก็จะพิจารณาฟ้องร้องหมิ่นประมาท ฐานที่กล่าวหาผู้อำนวยการโรงเรียนเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ และอาจพิจารณาแจ้งความในประเด็นกรรโชกทรัพย์ด้วย
นายวิสิทธิ์ ใจเถิง ผู้อำนวยการโรงเรียนพรตพิทยพยัต เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 1 ใน 20 โรงเรียนที่ถูกกล่าวหาเรียกรับเงิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ถูกกลุ่มบุคคลเข้ามาแอบอ้างหน่วยงานองค์กรระดับชาติเพื่อให้โรงเรียนยอมรับข้อตกลงในการว่าจ้างครูต่างชาติเพื่อสอนภาษาอังกฤษ แต่ทางโรงเรียนปฏิเสธ เนื่องจากได้รับข้อมูลว่าบริการที่จัดหามานั้นไม่ได้คุณภาพ ทั้งนี้การปฏิเสธดังกล่าวส่งผลให้กลุ่มบุคคลกดดันโรงเรียนในหลายรูปแบบ กระทั่งนำมาถึงการฟ้องร้องโรงเรียน ทั้ง 20 แห่งนี้ด้วย ดังนั้นตนอยากเรียกร้องสังคมร่วมตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่มีเป้าหมายโจมตีโรงเรียน และกระทำการโดยเอานักเรียนเป็นตัวประกันซึ่งเป็นสิ่งไม่เหมาะสม
ด้าน นายปรีชา จิตรสิงห์ ประธานคณะกรรมการรับนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) กล่าวว่า ขณะนี้ทางโรงเรียนได้เรียกนักเรียนมารายงานตัวเพิ่มอีก 3 คน เนื่องจากไม่มารายงานตัว 1 คนและลาออกไปเรียนต่อที่อื่นอีก 2 คน ซึ่งขณะนี้นักเรียนที่เข้าร่วมประท้วงที่ลำดับคะแนนถึงสามารถเรียกเข้าเรียนได้แล้ว 3 คน ส่วนอีก 13 คนได้มายื่นความประสงค์ให้คณะกรรมการเยียวยาจัดที่เรียนให้และยอมที่จะไปเรียนในโรงเรียนที่จัดให้แล้ว อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของแกนนำที่นำเด็กประท้วงนั้น เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนและมีการอ้างหน่วยราชการจริง ซึ่งสมัยที่ตนเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาก็พบว่ามีพฤติกรรมดังกล่าว..

ไม่มีความคิดเห็น:

เครือข่ายผู้ปกครองชลชาย ONLINE