วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

น้องคนนี้ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง และเนื้อสมองอักเสบ


ชีวิตคนเราพบความปวดร้าวมากมาย บางครั้งแทบตายยืนอยู่ไม่ไหว....
อยากให้พวกเราช่วยกันร่วมกัน ช่วยนักเรียนคนนี้ แม้จะไม่รู้จักแม้จะต่างโรงเรียน แต่ก็น่าจะช่วยกันได้นะ ตามกำลังศรัทธา หากจะตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก็ดีนะ........เพราะเธอเรียนอยู่โรงเรียนสายปัญญารังสิต ม.5 แล้ว เป็นคนนึงสัยดี ร่าเริง เรียนเก่ง อยู่ห้องคิงมาตลอดแต่ เมื่อตอนเปิดเทอม ม.5 เทอม1 เค้าก้ไม่ได้มาเรียน 

หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ เราก้ทราบว่าเค้าป่อยเป็นโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง โดยเค้าได้รับเชื้อโรคจากอากาศทั่วไปๆ ทำให้ร่างกายต้องสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อทำลายเชื้อโรคนั้น แต่ ร่างกายของเค้าแพ้ภูมิคุ้มกันตัวนี้ ทำให้ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ เชื้อจึงแพร่เข้าสุ่กระแสเลือด และเลือดเป็นทุกส่วนของร่างกาย จึงส่งผลต่อสมอง ทำให้เนื้อสมองอักเสบ และร่างกายไม่สามารถสั่งการได้เนื่องจากเนื้อสมองบางส่วนได้ถูกทำลายไป ตอนนี้เค้าอยู่ในไอซียู มีอาการชักเกร็ง ไม่ได้สติ ขากระตุกอยู่ตลอดเวลา

เค้า ได้ทำการรักษามาเรื่อยๆ แต่ไม่ดีขึ้นเลย หมอจึงบอกว่าจำเป็นต้องใช้ยาที่แรงที่สุดแล้ว ซึ่งมีโอกาสหายได้ถึง 80% แต่นี้ขณะนี้ ในประเทศไทยไม่มียาสำหรับรักษาโรคนี้ จึงจำเป็นต้องสั่งยามาจากเมืองนอก ในราคาหลอดละ 8,000 บาท ต้องใช้วันละ 4 หลอด ติดต่อกัน 5 วัน

จึงวอนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมสมทบทุนในการช่วยเหลือเพื่อนเราในครั้งนี้ด้วย

โรคสมอง ไม่สามารถรอได้นาน...
รายละเอียด: น้องคนนี้ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง และเนื้อสมองอักเสบ ไม่รู้สึกตัว มีอาการชักและเกร็งและต้องการใช้ยาจากนอกเพราะในประเทศไม่มียารักษาโรคนี้ ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก หมอบอกว่าถ้าใช้ยาตัวนี้จะมีโอกาสหาย80% ยานี้หลอดละ8,000บาท ใช้วันละ4หลอด ใช้5วัน รวมแล้วประมาน160,000วอนผู้มีจิตศรัทาช่วยบริจาคค่ายารักษากับแม่ของเพื่อนได้ที่เบอร์ 4.
วอนผู้มีจิตศรัทธาร่วมกระจ่ายข่าว และสามารถ ร่วมบริจาคได้ที่ เลขบัญชี 071-0-051764ธนาคารกรุงเทพ สาขาลำลูกกาคลอง 2 ชื่อ นาง รุจิรา วิมาลาhttp://www.krobkruakao.com/commentmyreport/?idnews=3894

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

พระราชดำรัส พระราชบิดา

“ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตน  เป็นที่สอง

ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่ง


ลาภทรัพย์และเกียรติยศ  จะตกแก่ท่านเอง


ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ ให้บริสุทธิ์”

สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุนEDF


"จดหมายที่ยังรอการตอบรับ"ั้

ขณะที่เด็กนักเรียนหลายๆ คนมีโอกาสที่จะได้เรียนอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองสามารถสนับสนุนทางการศึกษาได้ทุกด้านทั้งที่อยู่อาศัย การใช้ชีวิตทันสมัย ซื้อหาทุกสิ่งได้อย่างไม่เดือดร้อน สามารถบริโภคได้ทุกอย่าง ทั้งการให้ลูกเจี๊ยะ แป๊ะเจี๊ยะ หรือ อาม่าเจี๊ยะ จนเป็นเรื่องราวดังไปทั่ว ถึงการทุ่มเงินสนับสนุนการศึกษา และการทุ่มการตั้งใจศึกษาออกไปด้วยการไปประท้วง ว่าไม่ตั้งใจเรียน ผลการเรียนไม่ดีแต่อยากเรียนที่เดิม ทำให้เกิดคำถามมากมายว่า "ใครได้ประโยชน์" ตัวเอง ตัวผู้ปกครอง ตัวผู้เกี่ยวข้อง ในตัวองค์กรนั้นๆ ปัญหาที่มาของการอยากบริจาคเงิน จริงๆ แก้ไขได้ ถ้าอยากทำเพื่อส่วนรวม และมีเงินเหลือเยอะ คือ การไปสนับสนุนลูกชาวบ้านให้มีโอกาสทางการศึกษาขึ้นมาบ้าง และหากไม่พร้อมบริจาคก็น่าจะเป็นตัวอย่างในการเลี้ยงดูลูกให้ดูความเดือดร้อนของคนที่เดือดร้อนกว่า มาเป็นตัวอย่าง ก็ถือเป็นหนทางหนึ่งที่จะมาแนะนำ ข่าวนี้


"ในปีการศึกษา 2555 นี้ มีเด็กนักเรียนด้อยโอกาสที่ผ่านการคัดเลือกและมีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อรับทุนการศึกษาเป็นจำนวนทั้งสิ้น 8,501 คน โดย ณ วันที่ มิถุนายน 2555 มีเด็กนักเรียนที่ได้รับการอุปการะทุนการศึกษาแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 6,192 คน 

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ยังคงมีเด็กนักเรียนด้อยโอกาสอีกจำนวนถึง 2,309 คน ที่ยังคงไม่มีผู้อุปการะทุนการศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักเรียนที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน มีคุณภาพชีวิตที่ต่ำกว่ามาตรฐาน หรือขาดผู้ปกครองดูแลอุปการะเนื่องจาก พ่อแม่หย่าร้่างและถูกทอดทิ้งให้อาศัยอยู่กับปู่ย่า ตายายที่แก่ชรา พิการ และมีฐานะยากจน"   

หลังจากท่านได้อ่านเรื่องราวผ่านจดหมายของเด็กหญิงตัวเล็กๆทั้ง 4 คนที่เปรียบเสมือนตัวแทนของเด็กๆอีก 2,309 คนที่ยังไม่ได้รับทุนการศึกษาแล้ว EDF หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาเหล่านี้จะได้รับโอกาสและความเมตตาจากท่านบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งอาจเป็นโอกาสที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาได้ตลอดไปค่ะ







วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ผอ.ร.ร.บดินทรฯ เคลียร์ปัญหาจบ นักเรียนยอมขอโทษให้เรื่องทุกอย่างจบ



ลูกบดินทรฯ ปลุกม็อบกว่า 500 คน ต้อนรับ “ มงคลกิตต์ “ ในวันประชุมผู้ปกครอง นร.รอบบ่าย ด้าน “มงคลกิตติ์ “ แห่เชิดสิงโต พานร.ไปส่ง กลับโดนปิดประตูใส่ เดือดร้อนตำรวจต้องช่วยเจรจาก่อนยอมถอนทัพกลับ ขณะที่ คณะนร.รอบบ่าย นำพวงมาลัยไหว้ขอขมา ผอ.ร.ร. 
       
 
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศิษย์เก่าและนักเรียนปัจจุบัน รวมถึงผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สงห์ สิงเสนี)ประมาณ 500 คนได้เดินทางมายังโรงเรียนเวลาก่อน 8 .00 น. เนื่องจากโรงเรียนกำหนดให้มีการประชุมผู้ปกครองนักเรียนรอบบ่ายที่รับไว้จำนวน 52 คน โดยสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนบดินทรฯ และเครือข่ายผู้ปกครองฯ ได้จัดทำป้ายไวนิวกว่า 200 แผ่นมาติดไว้ทั่วบริเวณโรงเรียน เพื่อให้กำลังใจครูและโรงเรียน มีข้อความต่าง ๆ อาทิ ลูกบดิทรไม่ปล่อยให้ครูเดียวดาย หรือ สร้างความดีกันไว้ ให้ใคร ๆ เห็นคุณค่า เพื่อโรเรียนบดินทรเดชา ขณะที่นักเรียนบางส่วน คาดผ้า กระดาษมีน้ำเงินซึ่งเป็นสีของโรงเรียนไว้ที่ศีรษะด้วย

 
       
จากนั้นเวลา 9.00 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ (ภตช.) ได้นัดรวมตัวกับนักเรียนและผู้ปกครองรอบบ่ายจำนวนหนึ่งที่บริเวณ ทรี สแคว หน้าหมู่บ้านบดินทร์รักษาเพื่อพานักเรียนเข้ามาส่งในโรงเรียน โดยมีรถปราศัยและขบวนเชิดสิงโตนำคณะมาด้วย แต่ได้รับการต่อต้านจากนักเรียนศิษย์เก่าและนักเรียนโดยมีการปิดประตูไม่ยอมให้นายมงคลกิตติ์เข้ามา สุดท้ายนายสิงห์ทอง ทองบัวชุม ที่ปรึกษานายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยร.ต.อ. พงษ์ศักดิ์ เอี่ยมอ่อน รอง สวป. สน.วังทองหลาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10 นาย จึงได้ไปดักคณะของนายมงคลกิตติ์ไว้ก่อนถึงประตูโรงเรียน และไปเจรจากับนายมงคลกิตติ์ ใช้เวลาเจราประมาณ 15 นาที นายมงคลกิตติ์จึงยอมกลับไป ขณะที่ทางโรงเรียนย่อมเปิดประตูให้นักเรียนรอบบ่ายเดินเข้ามาในโรงเรียน
       นายโสภณ พิฆเนศวร ศิษย์เก่ารุ่น 16 และผู้ปกครองนักเรียนรุ่นปัจจุบัน กล่าวว่า ทางนักเรียนศิษย์เก่าและผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชาฯยอมรับทุกอย่าง แต่ขออย่างเดียวคือ ไม่ให้นายมงคลกิตติ์มาวุ่นวายกับเรื่องของดรงเรียนอีก พวกเราต้องการให้ทุกอย่างจบเสียที ให้ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ นักเรียนทุกคนจะได้เริ่มเรียนหนังสือ แต่ถ้านายมงคลกิตติ์ ยังเข้ามาวุ่นวายอยู่ เรื่องก็จะไม่จบ โรงเรียนก็ไม่สงบ ดังนั้น นายมงคลกิตติ์ ต้องเลิกยุ่งและปล่อยให้โรงเรียนบริหารจัดการเอง ซึ่งทางโรงเรียนตระหนักในเรื่องนี้ดี และมีแผนจัดการศึกษารองรับไว้แล้ว ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนรอบบ่ายกับนักเรียนปกตินั้น ขอให้สังคมวางใจ โรงเรียนอยู่มานาน ศิษย์เก่าทุกรุ่นก็รักกันดีเพราะฉะนั้นไม่ว่าปัญหาจะหนักอย่างไร ลูกบดินทรเดชาฯก็จะละลายพฤติกรรมกันได้ ต่อไปทุกฝ่ายก็จะไม่พูดเรื่องอดีตกันอีก เพื่อให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ แต่ของให้คนอื่นเลิกสร้างความแตกแยก
       
 
       ต่อมาเวลา 11.00 น. นายสุวัฒน์ วิวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชาฯ ได้ประชุมผู้ปกครอง นักเรียนรอบบ่าย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากประชุมเสร็จ นักเรียนรอบบ่ายได้เข้าแถวนำพวงมาลัย ไปไหว้ขอขมานายสุวัฒน์ และครู โดยนายสุวัฒน์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า โรงเรียนได้จัดให้นักเรียนรอบบ่ายทุกคน เรียนต่อสายศิลป์คำนวณ เพราะศักยภาพของโรงเรียนตอนนี้ ไม่สามารถ จัดการเรียนการสอนในสายอื่นให้นักเรียนรอบบ่ายได้ อุปสรรค์สำคัญอยู่ที่ครู เพราะครูบางคนมีชั่วโมงการสอนสูงถึง 20 คาบต่อสัปดาห์อยู่แล้ว ไม่สามารถแทรกตารางสอนเพิ่มอีก คั้นจะเอาครุใหม่มาสอนนักเรียนรอบบ่ายก็เกรงจะถูกครหาว่าจัดการเรียนการสอนให้เด็กกลุ่มนี้แตกต่างจากนักเรียนปกติ
       
 
       อย่างไรก็ตาม ในภาคเรียนที่ 2 ถ้าทุกอย่างลงตัว เด็กอาจปรับย้ายสายได้ เพราะโดยปกติที่นี่ก็ให้นักเรียนย้ายสายการเรียนได้ ถ้ารู้สึกว่าสายการเรียนเดิมไม่เหมาะกับตัวเอง หรือกรณีที่เด็กรอบบ่ายอยากเรียนสายวิทย์-คณิต อาจใช้วิธีการเลือกวิชากลุ่มวิทยาศาสตร์เป็นวิชาเลือกเพิ่มเติมแทน ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับศักยภาพของเด็กด้วย ส่วนเรื่องการปรับตัวของนักเรียนนั้น เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องที่ลำบาก เพราะเด็กมีเพื่อนและรุ่นพี่ที่รู้จักอยู่แล้ว ขณะเดียวกันได้จัดอาจารย์ที่ปรึกษาให้นักเรียนรอบบ่าย ซึ่งเป็นอาจารย์ที่จบมาทาวงจิตวิทยาและเป็นหัวหน้างานแนะแนวของโรงเรียน เพื่อค่อยให้คำปรึกษากับเด็กได้ 
       
       ด้านนายสิงห์ทอง กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการศธ.ให้กำชับกับทางโรงเรียนในการดูแลเด็กกลุ่มนี้ แต่อยากฝากไปถึงคนที่ออกมาเคลื่อนไหวว่า อย่าเอานักเรียนมาเป็นเครื่องหาผลประโยชน์ เพราะขณะนี้ ครู นักเรียน รวมถึงศิษย์เก่าของโรงเรียนก็บอบช้ำมากแล้ว ดังนั้นขอให้ยุติ อย่าเอานักเรียนมาเป็นเหยื่ออีก
       
       “ ไม่อย่าให้นายมงคลกิติ์ไปอ้างชื่อบุคคลสำคัญของประเทศมากดดันโรงเรียน เพราะเหตุการณ์จะบานปลาย ส่วนที่นายมงคลกิตติ์ อ้างว่าเป็นสายตรงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้น ขณะครูโรงเรียนบดินทรฯได้เข้านายกที่ทำเนียบรัฐบาลและได้สอบถามนายกในเรื่องนี้ ซึ่งนายกฯก็ปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักนายมงคลกิตติ์มาก่อน” นายสิงห์ทองกล่าวและว่า นายมงคลกิตติ์ เคยลงเลือกตั้งในนามพรรคการเมือง 2 พรรคมาก่อนแต่สอบตก
       
       นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รายหนึ่ง กล่าวว่า อยากเรียนร้องให้นายมงคลกิตติ์ ยุติ เลิกเข้ามาวุ่นวายกับโรงเรียน และให้เปิดแถลงข่าวขอโทษ เพราะที่ผ่านมานายมงคลกิตติ์พูดจาให้โรงเรียนเสียหาย ทั้งที่หลายเรื่องของไม่ใช่เรื่องจริง เช่นข้อมูลรายชื่อนักเรียนที่มีตัวภาอังกฤษต่อท้าย ซึ่งนายมงคลกิตติ์ได้นำไปมอบให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และอ้างว่าตัวภาษาอังกฤษเป็นโค้ด แยกประเภทเด็กฝากและนักเรียนที่จ่ายเงินแป๊ะเจี๊ยะ แต่จริงๆแล้วตัวอักษรที่ต่อท้ายรายชื่อ ไม่ใช่โค้ดเด็กฝาก หรือแป๊ะเจี๊ยะ แต่เป็นโค้ดแสดงสายการเรียนของเด็กแต่ละคน
       
       ขณะที่นักเรียนชั้นม.6 อีกรายหนึ่งกล่าวว่า ถ้านักเรียนรอบบ่ายทำตัวดีขึ้นและตั้งใจเรื่องมากขึ้น ให้คุ้มกับโอกาสที่ได้เข้ามา ก็น่าจะทำให้ความรู้สึกขอวงนักเรียนคนอื่นๆและบรรยากาศในโรงเรียนดีขึ้น แต่จริงๆแล้วนักเรียนบดินทรเดชาฯ ไม่เห็นด้วยกับมาตรการรับรออบบ่อย เพราะนั้นจะเป็นการเป็นสร้างบรรทัดฐานว่าการประท้วงจะทำให้ได้ทุกอย่าง กติกาไร้ความหมาย โดยส่วนตัวเห็นว่า มาตรการรอบบ่ายไม่ใช่เรื่องของการให้โอกาส เพราะจริงๆแล้วโรงเรียนได้ให้โอกาสนักเรียนที่เรียนอ่อน ได้มีโอกาสสอบคัดเลือกเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวน่าจะใช้โอกาสให้เท่าๆกับคนอื่น

ไปตามอ่านได้
http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U12198213/U12198213.html
 เรื่องที่น่าจะจบvote   ติดต่อทีมงาน
ในฐานะลูกบดินทร โกรธมากที่เอาชื่อเสียงมาเล่นงาน เพื่อให้ตัวเองได้เป็นที่รู้จักในสังคม

จะขึ้นมา ก็ไม่น่าจะต้องใช้การเหยียบหัวคนอื่น หรือเหยียบสถาบันคนอื่นขึ้นมาแบบนี้

คนแบบนี้หาความเจริญ ยาก

ใครเป็นลูกบดินทร หรือใครอยากประจานไอ้แว่น โปรดให้ Gift และ Share ใน social media ด้วยครับ

แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 55 10:04:08


จากคุณ: เอ็กซ์คันเกียร์  
เขียนเมื่อ: 6 มิ.ย. 55 09:59:35 
ถูกใจ: Prisca-proudneckSpiritDraconis208ฝายน้ำwatashi no namae wa tsuyumrchamod




เครือข่ายผู้ปกครองชลชาย ONLINE